ด้วยเทคโนโลยีของ Cloud ที่กำลังมาแรงในประเทศไทยเราจะไม่พูดถึงการ Scale ไม่ได้เลยวันนี้แอดมินจะมาอธิบายให้ทุกคนได้ทราบถึงความแตกต่างระหว่างการ Scale แบบ Vertical และ Horizontal กันนะครับ
Vertical Scaling คืออะไร?
การ Scale แบบ Vertical นั่นก็หมายถึงการขยายแบบแนวตั้ง จะ Focus ไปที่การเพิ่มจำนวนของ Resources (CPU, Memory) ของแต่ละ Application นั้นๆ เพื่อให้การทำงานของ Workload ต่างๆ เป็นไปอย่างราบลื่นและไม่ต้องกังวลในส่วนของระยะเวลาของการใช้งานของแต่ละ Application อีกด้วย
Horizontal Scaling คืออะไร?
ถ้าเราพูดถึงการใช้งานบนคลาว์เราจะใช้นิยามของมันว่าการขยายแบบแนวนอนซึ่งจะต่างจาก Vertical ตรงที่การขยายแบบนี้จะเน้นไปที่การเพิ่มจำนวน Workload โดยที่เราสามารถเลือกให้มันขยายเข้าหรือขยายออกได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจำเป็นจะต้องคำนึงถึงปริมาณ Traffic ของแต่ละแอปพลิเคชั่นหรือแม้กระทั่งจำนวน User ที่เข้ามาใช้งาน ซึ่งถ้าเรามองกลับไปที่องค์กรละก็แอดมั่นใจได้ว่าแต่ละองค์กรอาจจะมีเครื่องมือหรือมีหน้า Dashboard ที่เอาไว้ตรวจสอบปริมาณการใช้งานของ Workload ต่างๆ ของแต่ละ Environment ได้
องค์กรส่วนใหญ่จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงทุกส่วนไม่ว่าจะเป็น Horizontal หรือ Vertical Scaling เพราะมันจะช่วยลดปัญหา Bottleneck ของการใช้งานต่างๆ ได้แถมยังช่วยลด Cost ให้กับองค์กรได้อีก สุดยอดไหมล่ะ
ทีนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเราจะใช้งานได้อย่างไร
อย่างแรกเลยคือเราจำเป็นที่จะต้องเลือก Cloud Provider ในใจสำหรับ Application นั้นๆ ก่อน ไม่ว่าจะเป็น PROEN Cloud, Huawei Cloud, AWS, Azure และอื่นๆ อีกมากมายหลังจากนั้นเราอาจจะต้องศึกษาขั้นตอนการทำ Vertical กับ Horizontal บน Cloud ของเจ้านั้นๆ เพื่อที่จะให้เราสามารถนำมาใช้กับองค์กรได้
เห็นไหมล่ะว่าการมี Horizontal กับ Vertical Scaling นั้นจะช่วยให้องค์กรต่างๆ หมดห่วงกับความหน่วงหรือแม้กระทั่งการตอบสนองของ Application นั้นๆ ได้ไม่มากก็น้อยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม “ขนาด” นั้น สำคัญไฉน? [https://www.proen.cloud/en/blogs/sizing-problem-in-cloud-computing]
สนใจทดลองใช้ PROEN Cloud ฟรี! 14 วัน ลงทะเบียนได้ที่
https://www.proen.cloud/th/get-free-trials/
Tel: 02690 3888
E-mail: [email protected]
