Checkmarx Observability Tool ช่วยสแกน Code อย่างมั่นใจ ดักจับช่องโหว่ไม่ให้รั่วไหล

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้การสร้าง Application หรือวิธีการสร้าง Environment ได้เปลี่ยนไปเช่นกัน ทุกวันนี้เราจะรู้จักกับคำว่า Modern Application ซึ่งทางองค์กรเองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ Application ของเค้ามีความทันสมัย ทนทาน และยืดหยุ่นในทุกๆ สถานการณ์ มีกำหนดส่งที่รวดเร็ว ไม่มีเวลาว่างสำหรับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหรือช่องโหว่ ด้วยเพราะเหตุนี้เอง แอดจึงมี Tool อยู่ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Checkmarx มาอัพเดทกับทุกคนกันว่าคืออะไร ทำไมถึงต้องใช้ Checkmarx และมี Case Study อะไรบ้าง

 

Checkmarx คืออะไร?

Checkmarx เป็น Observability Tool ที่มีหน้าที่ไว้ Scan Code ต่างๆ ที่เหล่านักพัฒนาได้เขียนขึ้นมา โดยเครื่องมือชนิดนี้สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นช่องโหว่ (Vulnerability) หรือการเจาะระบบ (Exploit) โดยจะมีหน้า Dashboard ที่เอาไว้ตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ได้

 

แล้วทำไมต้อง Checkmarx?

 

Checkmarx เป็นองค์กรที่เป็น Leader ด้วย Solution การทดสอบความปลอดภัยของ Application ที่ได้รับรางวัลมากมาย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเร่งความเร็วงานได้อย่างปลอดภัย ความทุ่มเทในการแก้ปัญหาที่แท้จริงทำให้ Checkmarx เป็น Partner ในด้าน Application Security ที่หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเหตุผลหลักในการเป็นผู้นำตลาดมี 5 ข้อดังนี้ครับ

  1. ผลของการ Scan สามารถ Integrate เข้ากับ Dev Workflow ได้กว่า 25 รายการ, Env และ Infrastructure ต่างๆ ได้อีกด้วย
  2. แม่นยำ อีกทั้งยังสามารถให้คำแนะนำเชิงลึกด้านความปลอดภัย และอธิบายในสิ่งที่จะต้องแก้ไข เพื่อให้เป็นไปตาม Best Practice
  3. ทำให้ Team Dev และ Sec มีประสิทธิผล (Productive) และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยระบบ Training ที่สนุกสนานเพลิดเพลินเข้าใจง่าย (Enjoy)
  4. สามารถทำการขยายเพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานได้ แถมยังเป็นแบบ Enterprise Grade อีกด้วย
  5. มี Option ให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น On-prem, Hybrid หรือแม้กระทั่ง Cloud ก็สามารถทำได้หมด

ทีนี้ แอดจะมาอธิบายในมุมของ Case study กันว่า Checkmarx สามารถเข้าไปช่วยองค์กรได้อย่างไรบ้างโดย Case Study จะเป็นของธนาคารแห่งหนึ่งใน Switzerland โดยแอดจะเล่าถึง Requirement, Challenges และการแก้ปัญหาเหล่านี้ และการนำ Checkmarx มาใช้

 

Requirement ของทางธนาคาร: ทุกวันนี้เป้าหมายของ Hacker ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ธนาคารเป็นหลัก เนื่องจากว่ามีข้อมูลของลูกค้าเป็นจำนวนมากอีกทั้งยังสามารถเข้าถึงระบบของ Application ของทางธนาคารเพื่อทำธุรกรรมได้อีกด้วย เพราะเหตุนี้ทางธนาคารจึงอยากได้เครื่องมือที่เอาไว้ตรวจสอบปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียน Code หรือแม้กระทั่งระบบ Infrastructure เอง

 

Challenges และการเอาชนะปัญหาเหล่านี้: สิ่งที่เป็นอุปสรรคหลักของการจะนำ Checkmarx มาใช้ก็คือการ Adopt จากการพัฒนา Application ที่ใช้เป็นภาษาเก่าๆ มาเป็นภาษาที่มีความ Modern มากขึ้น โดยทางธนาคารเองได้กล่าวไว้ว่าทาง Checkmarx ได้มีการช่วยเหลือในทุกๆ Process ของการย้าย Application

 

การนำ Checkmarx มาใช้: สิ่งที่ธนาคารเห็นได้ชัดหลังจากที่นำ Checkmarx มาใช้ นั่นก็คือการมองเห็นถึงช่องโหว่ต่างๆ ของ Application อีกทั่ง Checkmarx เองยังสามารถ Integrate กับ Jira เพื่อที่จะทำให้ปัญหาเหล่านี้้หมดไปอีกด้วย

 

เห็นไหมล่ะครับว่าการที่เรามีเครื่องมือที่ดีและตอบโจทย์กับความต้องการนั้นจะช่วยให้ทุกๆ Team ในองค์กรทำงานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดอีกด้วย เพราะเหตุนี้เอง Checkmarx

จึงเป็น Leader ในด้าน Application Security อย่างต่อเนื่องมา 5 ปีแล้วครับ

หากท่านใดสนใจสามารถมาพูดคุยกับเราได้เลยครับ

สนใจทดลองใช้ PROEN Cloud ฟรี! 30 วัน ลงทะเบียนได้ที่
https://www.proen.cloud/th/get-free-trials/
Tel: 02690 3888
E-mail: [email protected]