การจะทำธุรกิจซักอย่าง ใครๆก็อยากทำให้มันสำเร็จ อีกหนึ่ง Framework ที่อยากแนะนำในวันนี้คือหน้าตากระดาษแผ่นเดียว ที่่มีช่องใหญ่ๆ มาให้กรอกทั้งหมด 9 ช่อง ด้วยกัน
ขั้นตอนการลงไอเดียเริ่มจาก…
⦁ Customer เราต้องรู้ก่อนว่าสินค้าหรือบริการที่เราจะทำออกมามีใครเป็นกลุ่มเป้าหมาย ลักษณะคาแรกเตอร์เป็นอย่างไร ใส่ได้เลย
⦁ Value Proportions เป็นคุณค่าที่เราจะทำให้ลูกค้า Happy เราก็ใส่ไปเลย กี่ข้อก็ว่ากันไป
⦁ Customer Relationships เราจะใช้วิธีไหนในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า หลังการขายจะรองรับอย่างไร ให้ลูกค้า Happy
⦁ Channels เป็นช่องทางการทำตลาด เราสนใจแบบไหน แบบ offline ก็ใส่สถานที่ ถ้าออนไลน์ก็ใส่ Platform ที่เราอยากทำ ซึ่งก็ต้องสอดคล้องว่ากลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ในนั้นด้วยนะ รวมถึงอินฟลูก็ใส่ในนี้ได้นะ
⦁ Key Activities กิจกรรรมหลักในธุรกิจของเรา ก็ลิสมาเลยตั้งแต่กระบวนการผลิต การตลาด การขาย วิจัยและพัฒนา การดูแลหลังการขาย
⦁ Key Resource จัดการทรัพยากรที่เรามีคู่กับ Activities ที่เตรียมไว้ในข้อ 5 เราจะได้รู้ละว่า ไหวมั้ย
⦁ Key Partners พาร์ทเนอร์จะทำธุรกิจให้โตไวกว่าเดิม เราก็ใส่ชื่อพาร์ทเนอร์ที่เราจับเอาไว้ น้องๆที่มาเห็นจะได้เข้าใจในโครงสร้างธุรกิจของเรามากขึ้น
⦁ Cost Structures ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจ ถ้าแบ่งเป็นหมวดหมู่ออกมาเป็น 4 ประเภทได้ก็จะดีมาก คือต้นทุนสินค้าและบริการ ต้นทุนการขาย ต้นทุนบริหาร และต้นทุนทางการเงิน
⦁ Revenue Stream รายรับ เราก็จะมาส่องโมเดลกันแล้วว่าสินค้าเราจะขายแบบไหน แบบรายเดือน ขายสินค้า หรือแบบ Freemium ให้ลูกค้าเป้าหมายของเราโดนใจกดไลค์แนะนำบอกต่อ ก็อยู่ที่แต่ละธุรกิจต้องการเลยครับ
